สนใจแอดไลน์ @chokdeetabien  

เผยรายละเอียด Benz g class รถพรีเมียมสำหรับครอบครัว พร้อมราคา

เผยรายละเอียด Benz g class รถพรีเมียมสำหรับครอบครัว พร้อมราคา

Mercedes-Benz G-Class ที่หลายคนเรียกติดปากว่า Benz G Class หนึ่งในรถยนต์ Off-Road SUV ระดับพรีเมียมที่ถือว่าเป็นสัญลักษณ์ของความหรูหรา แข็งแกร่ง และทนทาน แถมยังตอบโจทย์การใช้งานของครอบครัวด้วยดีไซน์ที่โดดเด่นและฟังก์ชันครบครัน วันนี้เราจะพาไปเจาะลึกทั้งประวัติความเป็นมา สเปก ราคา และเหตุผลว่าทำไม Benz G Class ถึงเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจสำหรับเหล่าคนรักรถหรูกัน

ประวัติ  Benz G Class

ย้อนตำนานความแกร่ง จุดกำเนิดและวิวัฒนาการของ Benz G Class

Mercedes-Benz-G-Wagon หรือที่รู้จักกันในชื่อ “G-Class” มีประวัติยาวนานหลายทศวรรษและรูปทรงเอกลักษณ์ไม่เหมือนใคร เริ่มต้นจากการถูกออกแบบเพื่อใช้งานในทางทหารและหน่วยงานราชการต่าง ๆ โดยชื่อ G-Wagon ย่อมาจากคำว่า “Geländewagen” ในภาษาเยอรมัน ซึ่งแปลว่า “รถสำหรับทางวิบาก” นั่นเอง

จุดเริ่มต้นของ G-Wagon เกิดขึ้นในปี 1973 โดยหนึ่งในผู้ถือหุ้นรายใหญ่ของบริษัท Mercedes ขณะนั้น คือ เจ้าชายชาห์ โมฮัมหมัด เรซา ปาห์ลาวี ได้แนะนำให้บริษัทผลิตรถ Off-Road  สำหรับทหารที่สามารถตอบโจทย์กลุ่มผู้ใช้ทั่วไปได้ Mercedes-Benz จึงร่วมมือกับบริษัทผู้ผลิตในประเทศออสเตรีย Steyr Daimler Puch ที่มีความเชี่ยวชาญในการผลิตอุปกรณ์ทางการทหาร โดยตั้งเป้าหมายให้เป็นรถที่มีความทนทานสูง สามารถลุยไปได้ทุกที่ และมีสมรรถนะที่พร้อมเผชิญกับสภาพถนนทุกรูปแบบ ช่วงแรกนั้น G-Wagon ถูกผลิตขึ้นมาใช้ในทางการทหารสำหรับภารกิจเฉพาะ ก่อนที่ในปี 1979 จะเริ่มเปิดตัวสู่ตลาดรถยนต์ทั่วไป และได้รับความสนใจอย่างล้นหลาม ซึ่งปัจจุบัน G-Wagon ได้รับการเปลี่ยนชื่อเป็น “G-Class”

ดีไซน์ของ Benz G Class นั้นมีความแตกต่างอย่างชัดเจน ด้วยตัวรถรูปทรงเหลี่ยมสันและโครงสร้างตัวถังที่แข็งแกร่งเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว ทำให้เป็นที่จดจำได้ง่าย ผสมผสานเข้ากับเทคโนโลยีและสมรรถนะออฟโรดอันยอดเยี่ยมที่อัปเกรดให้ทันสมัยเพื่อตอบสนองความต้องการของผู้ใช้ตลอดเวลา ทำให้ Benz G Class เป็นมากกว่าแค่รถออฟโรดธรรมดา แต่ยังคงสไตล์ที่หรูหราตามแบบฉบับ Mercedes-Benz ไว้อย่างเหนียวแน่น จนกลายเป็นหนึ่งในสัญลักษณ์ของแบรนด์นี้ที่ได้รับความนิยม ทั้งในกลุ่มนักผจญภัยและเหล่าคนดังทั่วโลก ไม่เว้นแม้แต่กลุ่ม Collector คนรักรถหรูที่มาใช้บริการจัดหารถหรูของโชคดีทะเบียน

 

Benz G Class ราคาเท่าไหร่

Benz G Class ราคาเท่าไหร่?

ราคาของ Benz G Class มีความแตกต่างไปตามแต่ละรุ่นและสเปก โดยราคานั้นจะเริ่มต้นประมาณ 9 ล้านบาทขึ้นไป ซึ่งราคาอาจเพิ่มขึ้นตามออปชันเสริมและฟีเจอร์พิเศษต่าง ๆ รุ่นท็อปของ G Class อาจจะมีราคาสูงถึง 20 ล้านบาท แม้ว่าจะมีราคาสูง แต่ก็ถือว่าคุ้มค่าสำหรับผู้ที่มองหารถยนต์ระดับหรูที่พร้อมลุยทุกสภาพถนนและมีสมรรถนะการขับขี่ที่ยอดเยี่ยม โดยรุ่นที่ได้รับความนิยมในไทยมีราคาดังนี้

รุ่น G 350 d Sport 

ราคาอยู่ที่ประมาณ 9,490,000 บาท

ดีไซน์คลาสสิกที่สุดแห่งยนตกรรม Off-Road เป็นรุ่นที่เน้นประหยัดน้ำมัน มาพร้อมเครื่องยนต์ดีเซล 6 สูบ ให้กำลังสูงสุด 286 แรงม้า เหมาะสำหรับการใช้งานในชีวิตประจำวันและการเดินทางไกล

รุ่น AMG G 63 

ราคาอยู่ที่ประมาณ 17,920,000 บาท

เป็นรุ่นพรีเมียมสุดยอดสมรรถนะ มาพร้อมเครื่องยนต์ V8 Biturbo ให้กำลังสูงสุดถึง 585 แรงม้า อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ภายในเวลาเพียง 4.5 วินาที ภายนอกดูสปอร์ตและแข็งแกร่ง ภายในตกแต่งด้วยวัสดุคุณภาพสูงและเทคโนโลยีล้ำสมัย

รุ่น G 400 d 

ราคาอยู่ที่ประมาณ 14,990,000 บาท

เป็นรุ่นที่พัฒนาต่อยอดมาจาก G 350 d โดยมีการปรับปรุงสมรรถนะเครื่องยนต์ให้แรงขึ้นเล็กน้อย และเพิ่มอุปกรณ์อำนวยความสะดวกมาให้มากขึ้น

หมายเหตุ: ราคานี้เป็นราคาโดยประมาณ ราคาอาจแตกต่างกันไปตามสเปกและการตกแต่งอุปกรณ์เสริมเพิ่มเติมที่เลือกใช้

พบตัวเลือกที่ตอบโจทย์คุณที่สุด ดูรุ่นและราคา Benz G-Class ในคอลเลกชันรถหรูของเรา!

สเปกและสมรรถนะเครื่องยนต์ของ Benz G Class

ใต้ฝากระโปรง Benz G Class มีตัวเลือกเครื่องยนต์หลากหลายรุ่น แต่ละรุ่นมีการออกแบบเพื่อเน้นทั้งสมรรถนะและการขับขี่ที่ทรงพลัง ให้กำลังแรงม้าและแรงบิดสูง สามารถลากจูงได้ถึง 7,000 ปอนด์ ไม่ว่าจะเป็นรุ่น G 350 d ที่ใช้เครื่องยนต์ดีเซล V6 หรือจะเป็นรุ่น G 63 AMG ที่ใช้เครื่องยนต์เบนซิน V8 โดยเฉพาะระบบเกียร์ 9 สปีด (9G-TRONIC) และการขับเคลื่อน 4 ล้อ (4MATIC All-Wheel Drive) ช่วยให้การขับขี่นั้นมั่นคงแม้ในพื้นที่ทุรกันดาร จึงทำให้ Benz G Class เป็นที่ชื่นชอบของผู้ที่รักการผจญภัย หรือครอบครัวสายลุยที่ต้องการรถใช้งานได้ในทุกสถานการณ์ ด้วยสเปกที่โดดเด่นรอบด้าน

อีกหนึ่งจุดเด่นของ G-Class คือการใช้ระบบล็อก 3 จุดของ Differential ช่วยให้ล้อทั้ง 4 สามารถทำงานอย่างอิสระและกระจายกำลังในล้อที่ต้องการ เพื่อช่วยให้สามารถควบคุมรถในสถานการณ์ที่ต้องการแรงฉุดได้สูง

สมรรถนะและความทนทาน

Benz G Class ได้รับการออกแบบให้ทนทานต่อสภาพแวดล้อมสุดขั้ว ไม่ว่าจะเป็นอุณหภูมิสูงหรือถนนขรุขระ ด้วยตัวถังรถแบบ body-on-frame มีการวางโครงเหล็กและตัวถังรถแยกจากกัน และระบบกันสะเทือนที่แข็งแกร่ง ถูกพัฒนาให้ตอบสนองการขับขี่ออฟโรดเป็นหลัก โดยใช้การผสมผสานระหว่างระบบกันสะเทือนแบบ Double-Wishbone ในล้อหน้า และระบบแบบ 5-Link ที่ล้อหลัง สามารถรองรับแรงกระแทกและการบิดตัวของรถในทางที่ขรุขระได้ดี ทำให้ผู้ขับขี่สามารถควบคุมรถได้แม่นยำและมั่นคงมากขึ้นในสภาพถนนที่มีอุปสรรคท้าทายได้อย่างมั่นคง

เทคโนโลยีขั้นสูง 

ล้ำหน้าด้วยอุปกรณ์ Hardware และ Software ภายในรถเต็มรูปแบบ ไม่ว่าาจะเป็น Driver Assistance Systems ช่วยเหลือการขับขี่ที่ครอบคลุมในสภาพแวดล้อมที่หลากหลาย ระบบ Infotainment และ MBUX ระบบปฏิบัติการอัจฉริยะที่ช่วยเพิ่มประสบการณ์การขับขี่ให้ทันสมัย กล้องมุมมอง 360 องศา มีโหมดพิเศษที่เรียกว่า G-Mode ซึ่งเป็นโหมดที่ออกแบบมาเพื่อการขับขี่ในเส้นทางออฟโรดโดยเฉพาะ รวมถึงระบบปรับสภาพอากาศภายในอัตโนมัติ (Thermotronic) นอกจากนี้ยังมีระบบเสริม เช่น ฮอตสปอต Wi-Fi และระบบความบันเทิงสำหรับเบาะหลัง พร้อมอุปกรณ์อำนวยความสะดวกภายในห้องโดยสารครบครัน จึงทำให้ผู้โดยสารรู้สึกถึงความหรูหราและสะดวกสบายแม้ในระยะทางไกล

ระบบความปลอดภัย 

Benz G Class ยังมาพร้อมระบบความปลอดภัยที่เหนือชั้น มอบความมั่นใจทุกครั้งที่ขับขี่ ไม่ว่าจะเป็นเส้นทางไหนก็ตาม จึงเป็นรถที่ดึงดูดใจใครหลายคน โดยเฉพาะ Collector สาวสายลุยที่ต้องการความอุ่นใจเมื่อต้องขับรถคนเดียว ระบบความปลอดภัยมาตรฐานใน G-Class ได้แก่

• ระบบเตือนการชนด้านหน้า

• ระบบเบรกฉุกเฉินอัตโนมัติ

• ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติพร้อมเทคโนโลยีหยุดและไปต่อ

• ระบบเตือนการออกนอกเลนและช่วยควบคุมเลน

• ระบบช่วยจอดรถอัตโนมัติ

• ระบบเตือนจุดอับสายตา

ดีไซน์และฟังก์ชันของ Benz G Class 

ขึ้นชื่อว่าเป็นยานยนต์ระดับตำนานที่ขับแบบ Off-road ก็ได้ On-road ก็เท่ไม่แพ้ใคร ด้วยดีไซน์ไอคอนรูปทรง Boxy ที่สามารถระบุถึงตัวตนของ G-Class ได้ทันที ภายนอกด้านหน้ามีไฟหน้าทรงกลม LED มาพร้อมกระจังหน้าและกันชนขนาดใหญ่ที่ทนทาน มือจับเปิดประตูแบบ Exposed Door Hinges แบบเห็นได้ชัดเจน เป็นอีกหนึ่งลักษณะพิเศษของ Benz G Class ทั้งยังมีระยะความสูงจากพื้นดินที่มาก ช่วยปกป้องส่วนใต้ของรถจากสภาพพื้นถนนที่ไม่เรียบ อีกทั้งยังมีให้เลือกกว่า 25 สี รวมถึงสีดำ, Brilliant Blue Metallic, Arabian Gray, Cardinal Red Metallic, Polar White และอื่น ๆ

แม้ว่าภายนอกของ Benz G Class จะถูกออกแบบมาเพื่อความทนทาน แต่ภายในได้รับการออกแบบตกแต่งด้วยวัสดุระดับไฮเอนด์ มีความหรูหราและสะดวกสบาย เบาะหนัง Nappa ที่มีการเดินด้ายด้วยมือบนแผงหน้าปัดและเบาะที่นั่ง พร้อมฟังก์ชันควบคุมอุณหภูมิอัตโนมัติแบบสามโซน ช่วยให้ผู้ขับและผู้โดยสารสามารถปรับอุณหภูมิในแต่ละที่นั่งได้ตามต้องการ และยังสามารถเลือกเพิ่มความอุ่นของพวงมาลัยได้

เทคโนโลยีล้ำสมัยกับระบบ MBUX ทั้งการสั่งงานด้วยเสียง ระบบนำทาง หน้าจอสัมผัสระบบ Infotainment ขนาด 12.3 นิ้ว ที่สามารถเชื่อมต่อกับ Apple CarPlay และ Android Auto ได้ รวมถึงระบบเครื่องเสียงคุณภาพเยี่ยม Burmester 15 ลำโพง ที่จะมอบประสบการณ์เสียงรอบทิศทางอันสมจริงให้คุณ นอกจากนี้ยังมีออปชันเสริมมากมายให้สามารถปรับแต่งได้ตามความต้องการ เหมาะกับกิจกรรมที่หลากหลายและตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์ โดยเฉพาะการใช้งานสำหรับครอบครัว

ค้นหารถหรู รถมือหนึ่งรุ่นอื่น ๆ ที่เหมาะกับคุณ ไม่ว่าจะเป็น BMW, PORSCHE, BENTLEY, VOLKSWAGEN

Benz G Class รถหรูสายลุย

Benz G Class รถหรูขวัญใจสายลุย มีกี่รุ่น

นับตั้งแต่เปิดตัวครั้งแรกในปี 1979 จนถึงปัจจุบัน Benz G Class ก็มีการพัฒนาหลายรุ่นย่อยเพื่อให้ตอบโจทย์ความต้องการที่หลากหลายของผู้ใช้ แต่ละรุ่นจะมีสมรรถนะและฟังก์ชันที่ต่างกันออกไป ซึ่งรุ่นที่เป็นที่นิยมในปัจจุบัน มีดังนี้

1. Mercedes-Benz G 350 d

เครื่องยนต์: ดีเซล 6 สูบ 2,925 cc ให้กำลัง 286 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 600 นิวตันเมตร

อัตราเร่ง: 0-100 กม./ชม. ภายใน 7.4 วินาที

ระบบส่งกำลัง: ระบบเกียร์อัตโนมัติ 9 สปีด 9G-TRONIC ที่ออกแบบมาให้ใช้แรงบิดเต็มพิกัดในทุกช่วงความเร็ว

ระบบขับเคลื่อน: ขับเคลื่อนสี่ล้อแบบ Full-time พร้อมเฟืองท้ายล็อก 3 จุด ช่วยเพิ่มการยึดเกาะในการขับขี่แบบออฟโรด

ระบบกันสะเทือน: ปรับแต่งมาให้เหมาะสมทั้งถนนเรียบและออฟโรด พร้อมระบบกันสะเทือนด้านหน้าแบบอิสระเพื่อเสริมความนุ่มนวล

ดีไซน์: ภายนอกเน้นความหรูหราที่ทันสมัย ผสานดีไซน์คลาสสิกที่แข็งแกร่ง ภายในห้องโดยสารมีการตกแต่งด้วยวัสดุระดับพรีเมียมที่ให้ความรู้สึกหรูหราและสะดวกสบาย คอนโซลกลางติดตั้งจอแสดงผลขนาด 12.3 นิ้ว พร้อมระบบ MBUX ช่วยเพิ่มความสะดวกสบาย

ความปลอดภัย: ระบบเบรก ABS, ระบบป้องกันการลื่นไถล และระบบควบคุมการทรงตัวแบบ ESP เพื่อเพิ่มความปลอดภัย

จุดเด่น: ประหยัดน้ำมันกว่ารุ่นเบนซิน เหมาะสำหรับการขับขี่ในระยะทางไกล

2. Mercedes-Benz AMG G 63

เครื่องยนต์: เบนซิน V8 ขนาด 4.0 ลิตร ทวินเทอร์โบ ให้กำลัง 585 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 850 นิวตันเมตร

อัตราเร่ง: 0-100 กม./ชม. ในเวลาเพียง 4.5 วินาที

ระบบส่งกำลังและสมรรถนะ: เกียร์อัตโนมัติ 9 สปีด AMG SPEEDSHIFT TCT พร้อมระบบขับเคลื่อน AMG Performance 4MATIC เน้นการส่งกำลังไปที่ล้อหลังมากขึ้น (60:40) เพื่อเพิ่มการควบคุม

ดีไซน์: ภายนอกมีความสปอร์ตโดดเด่น ตกแต่งด้วย AMG เช่น กระจังหน้า AMG Panamericana และล้ออัลลอยด์ขนาดใหญ่แบบ AMG ขนาด 20-22 นิ้วเพื่อเสริมความสปอร์ต ภายในมีการตกแต่งด้วยวัสดุหนังแท้ระดับพรีเมียม พร้อมเบาะนั่ง AMG ที่รองรับการขับขี่แบบสปอร์ต

เทคโนโลยีเฉพาะ AMG: ระบบเสียง AMG Performance ที่เสริมเสียงเครื่องยนต์ดุดัน พร้อมโหมดขับขี่แบบ Sport+ และ Race

ระบบกันสะเทือน AMG RIDE CONTROL: ปรับโหมดการขับขี่ได้ตั้งแต่ Comfort จนถึง Sport เพื่อการตอบสนองที่รวดเร็ว

จุดเด่น: เป็นรุ่นที่สมรรถนะทรงพลังที่สุดใน G Class ด้วยเครื่องยนต์ V8 Bi-Turbo ขนาด 4.0 ลิตร ทำให้ได้การขับขี่ที่ดุดันและเหนือระดับ เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการทั้งความเร็วและความหรูหรา

3. Mercedes-Benz G 400 d

เครื่องยนต์: ดีเซล 6 สูบแถวเรียง ขนาด 2.9 ลิตร พร้อมเทอร์โบคู่ (twin-turbo) ให้กำลังสูงสุด 330 แรงม้า และแรงบิด 700 นิวตันเมตร

อัตราเร่ง: สามารถเร่งจาก 0-100 กม./ชม. ได้ภายใน 6.4 วินาที 

ระบบส่งกำลัง: เกียร์อัตโนมัติ 9 สปีด 9G-TRONIC ที่ออกแบบมาเพื่อให้การเปลี่ยนเกียร์เป็นไปอย่างนุ่มนวลและตอบสนองเร็ว

ระบบขับเคลื่อน: ขับเคลื่อนสี่ล้อแบบ Full-time พร้อมระบบล็อกเฟืองท้าย 3 จุด (Differential Lock) ที่สามารถปรับการขับขี่ได้หลายแบบ ช่วยให้การยึดเกาะและการควบคุมบนพื้นถนนที่ท้าทายเป็นไปได้ดี

ดีไซน์: การออกแบบคงความคลาสสิกของ G-Class เช่น รูปทรง Boxy ไฟหน้า LED กลม กระจังหน้าสัญลักษณ์ดาวสามแฉก ภายในห้องโดยสารตกแต่งด้วยวัสดุหนังแท้ Nappa และมีหน้าจอ MBUX ขนาด 12.3 นิ้ว เสริมด้วยแสง Ambient Lighting และการออกแบบเบาะที่เน้นความหรูหราและทนทาน

ความปลอดภัย: ระบบเบรก ABS ระบบควบคุมการทรงตัว ESP ระบบช่วยเตือนการชนด้านหน้า (Collision Prevention Assist) และระบบช่วยการขับขี่ที่หลากหลาย เช่น ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติแบบแปรผัน (Active Distance Assist DISTRONIC)

จุดเด่น: สมรรถนะที่สมดุลสูงของเครื่องยนต์ดีเซล ประหยัดน้ำมันในการขับขี่ไกล ๆ เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการรถที่มีพลังแต่ประหยัด รวมถึงมีความสามารถในการขับออฟโรด

 

Benz G Class รุ่นใหม่ล่าสุด

Benz G Class รุ่นล่าสุด

สำหรับรุ่นใหม่ล่าสุดในกลุ่ม Mercedes-Benz G-Class คือ “G 580” รถยนต์ไฟฟ้า 100% ที่จะมาเติมเต็มความต้องการของผู้ใช้ที่ชื่นชอบรถออฟโรดแบบคลาสสิกแต่ประหยัดพลังงานและเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม โดย G 580 รุ่นปี 2025 นี้ยังคงรูปทรงเหลี่ยมและเอกลักษณ์ของ G-Class ไว้ได้อย่างครบถ้วน พร้อมเสริมเทคโนโลยีเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพทั้งในการขับขี่และความสะดวกสบายในการใช้งาน 

G 580 มาพร้อมระบบขับเคลื่อน 4 มอเตอร์ (หนึ่งมอเตอร์ต่อหนึ่งล้อ) ให้กำลังสูงสุด 579 แรงม้า และแรงบิดสูงสุด 1,164 นิวตันเมตร รองรับการขับขี่ออฟโรดด้วยฟีเจอร์ Low Range ซึ่งช่วยให้การไต่ขึ้นทางลาดชันทำได้ถึง 100% ตามสภาพถนน ตัวรถใช้แบตเตอรี่ขนาด 116 กิโลวัตต์-ชั่วโมง สามารถเร่งความเร็วจาก 0-60 ไมล์/ชั่วโมง ภายใน 4.6 วินาที มีระยะทางการขับขี่คาดว่าจะอยู่ที่ราว ๆ 473 กิโลเมตร และชาร์จไฟได้จาก 10% ถึง 80% ภายในเวลาเพียง 32 นาที เมื่อใช้เครื่องชาร์จ DC แบบเร็ว​

ด้านการออกแบบภายนอก G 580 มีการปรับเล็กน้อยโดยเฉพาะกระจังหน้าที่มีไฟ LED ล้อมรอบ ให้เลือกได้ระหว่างสีเดียวกับตัวถังหรือตกแต่งด้วยสีดำ นอกจากนี้ มีตัวเลือกในการติดตั้ง “Design Box” ที่ประตูท้ายแทนการติดล้อสำรอง เพื่อใช้เก็บอุปกรณ์ชาร์จไฟได้อย่างสะดวกสบาย ส่วนภายในห้องโดยสารยังคงความหรูหราแบบ G-Class ด้วยหน้าจอคู่ 12.3 นิ้ว ระบบ MBUX และระบบเสียง Burmester 3D​

G 580 ยังมาพร้อมกับฟีเจอร์ G-Turn ซึ่งช่วยให้รถสามารถหมุนรอบตัวได้ในจุดเดียว เพิ่มความสะดวกในการเลี้ยวในเส้นทางทุรกันดาร พร้อมระบบ G-Steering ที่ปรับแรงบิดล้อให้เหมาะสมกับการเลี้ยวในพื้นที่ต่าง ๆ เรียกได้ว่าเป็นการผสมผสานระหว่างพละกำลังไฟฟ้าและความสามารถในทางออฟโรดอย่างลงตัว

ข้อดีของ Benz G Class

• ดีไซน์ที่โดดเด่น – Benz G Class มีดีไซน์ Boxy ที่เป็นเอกลักษณ์ไม่เหมือนใคร ให้ความรู้สึกที่ทรงพลังและแข็งแกร่ง เหมาะสำหรับคนที่ชอบรถที่มีสไตล์ที่แตกต่าง

• สมรรถนะการขับขี่สูง – ด้วยเครื่องยนต์ที่ทรงพลังและระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ ทำให้ Benz G Class สามารถรับมือกับทุกสภาพถนนได้ดี ไม่ว่าจะเป็นทางลูกรังหรือเส้นทางที่ทุรกันดาร

• ความหรูหราและสะดวกสบาย – ภายในห้องโดยสารของ Benz G Class ได้รับการออกแบบอย่างพิถีพิถันด้วยวัสดุคุณภาพสูงและฟีเจอร์ที่ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ของทั้งครอบครัว

• เทคโนโลยีล้ำสมัย – Benz G Class มาพร้อมกับเทคโนโลยีล่าสุดทั้งในด้านความปลอดภัยและความสะดวกสบาย เช่น ระบบช่วยเหลือการขับขี่ และระบบ Infotainment ที่ใช้งานง่าย

• ความทนทานและเชื่อถือได้ – ด้วยประวัติศาสตร์ที่ยาวนานและการพัฒนาที่ไม่หยุดยั้ง Benz G Class จึงเป็นหนึ่งในรถยนต์ที่ทนทานและเชื่อถือได้สูงมาตลอดกว่า 40 ปี

มีรถหรูแล้ว ต้องมีทะเบียนเลขสวยประดับรถด้วย เลือก “โชคดีทะเบียน” บริการรับจองทะเบียนรถ ให้คำปรึกษาโดยผู้เชี่ยวชาญ

Benz G Class รถยนต์ระดับพรีเมียม ที่มีทั้งความหรูหราและสมรรถนะการขับขี่อันยอดเยี่ยม ถือเป็นตัวเลือกที่จะมาเติมเต็มทุกไลฟ์สไตล์ความชอบได้อย่างลงตัว โดยเฉพาะคนที่กำลังมองหารถที่สามารถใช้งานได้ทั้งในชีวิตประจำวันและการผจญภัยในวันหยุดกับครอบครัว Mercedes-Benz G-Class จะมาช่วยสร้างประสบการณ์อันยอดเยี่ยมให้แก่คุณและสมาชิกในครอบครัวได้สัมผัสสุนทรียภาพแห่งการขับขี่ที่เหนือระดับ สมกับฉายารถหรูขวัญใจสายลุย!

และอย่าลืมเพิ่มความพิเศษให้กับรถหรูคู่ใจคุณ ด้วยการเลือก “ทะเบียนเลขสวย” ที่ โชคดีทะเบียน บริการจัดหาป้ายทะเบียนรถ ทะเบียนมงคล ทะเบียนเลขศาสตร์ ผลรวมดี รับจองทะเบียนรถได้ทุกหมวดตามสั่ง ประสบการณ์กว่า 15 ปี เป็นประกัน พร้อมให้คำแนะนำโดยผู้เชี่ยวชาญ เราดูแลทุกขั้นตอนแบบ One Stop Service ประหยัดเวลา ปลอดภัย ไม่ยุ่งยาก รับผิดชอบตั้งแต่ต้นจนจบ ดูแลคุณถึงหน้าบ้านด้วยความเป็นมืออาชีพ ให้การเป็นเจ้าของเลขทะเบียนรถที่ต้องการเป็นเรื่องง่ายนิดเดียว ที่ https://www.chokdeetabien.com/ HOTLINE (24 hrs.) โทร 090-688-8888 หรือ 02-247-7777

  • 1 วัน ที่แล้ว
เราเป็นใคร ดียังไง สโลแกน ทำมากว่า 20 ปี @chokdeetabien info@chokdeetabien.com 090-688-8888 chokdeetabien chokdeetabien Google Maps